Sunday, January 10, 2016

เช็คก่อนสร้างสระว่ายน้ำ


ปัจจุบันสระว่ายน้ำดูจะได้รับความสนใจจากเจ้าของบ้านหลายๆท่านมากขึ้น เพราะนอกจากเราจะใช้เป็นที่ออกกำลังกายกายดับร้อนให้กับสมาชิกในบ้านแล้ว สระว่ายน้ำยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้บ้านและสวนดูสวยงามโดดเด่นมากขึ้น ประกอบกับทุกวันนี้ค่าก่อสร้างสระว่ายน้ำมีราคาถูกลงและสามารถดูแลรักษาง่ายกว่าในสมัยก่อนมาก คอลัมน์ "สถาปัตยกรรม" ฉบับนี้จึงขอเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสระว่ายน้ำ และวิธีเพิ่มบรรยากาศให้สระว่ายน้ำในบ้านมาฝากครับ

เช็คก่อนสร้าง

สิ่งแรกที่ต้องทำสำหรับผู้ที่อยากจะได้สระว่ายน้ำในบ้านก็คือ หันไปสำรวจดูบริเวณรอบๆบ้านของเราว่ามีพื้นที่กว้างพอที่จะทำสระว่ายน้ำได้หรือไม่ ปัจจุบันบ้านขนาด 50 ตารางวา ก็สามารถทำสระว่ายน้ำในบ้านได้แล้ว แม้สระว่ายน้ำไม่จำเป็นจะต้องมีขนาดใหญ่มาก แต่ก็ไม่ควรจะมีขนาดเล็กมากจนเกินไป เพราะสระว่ายน้ำที่เราอยากได้อาจกลายเป็นแค่บ่อแช่น้ำหรือแอ่งเก็บน้ำ อย่างไรก็ตามสระควรมีความยาวมากพอสำหรับการว่ายออกกำลังกาย และไม่แคบจนมือของเราต้องเสี่ยงกับการฟาดขอบสระเวลาว่ายน้ำ

สำหรับบ้านสร้างใหม่นั้นอาจมีข้อได้เปรียบกว่าบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว ตรงที่สามารถเลือกทำสระว่ายน้ำให้อยู่ติดกับตัวบ้านได้เลย แต่เราก็ควรจะปรึกษาสถาปนิกตั้งแต่ช่วงแรกของการออกแบบบ้าน เพื่อจะได้เตรียมโครงสร้างรองรับสระว่ายน้ำไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ และจะได้วางแผนเลือกรูปแบบสระให้มีความกลมกลืนเป็นส่วนเดียวกับสไตล์ของบ้านด้วย

Trips

สระที่อยู่ติดกับบ้านอาจช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในบ้าน และสามารถใช้งานได้สะดวกมากกว่าสระที่สร้างห่างจากตัวบ้าน แต่ต้องระวังเรื่องน้ำกระเด็นเข้ามาทำความเสียหายให้พื้นภายในบ้านด้วย พื้นห้องที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำจึงควรเลือกวัสดุปิดผิวที่ทนน้ำได้ดีและกันลื่นด้วย

สระว่ายน้ำที่อยู่ติดตัวบ้านจะต้องใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยมากกว่าสระที่สร้างห่างจากตัวบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กควรจะออกแบบราวกั้นกันตกด้วย

สำหรับสระที่ไม่ได้ติดสปริงบอร์ด ความลึกของสระว่ายน้ำขึ้นอยู่กับส่วนสูงของเจ้าของบ้าน และลักษณะการใช้งานเป็นหลัก โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยจะสูงประมาณ 1.2 -1.3 เมตร ซึ่งระดับของผิวน้ำจะสูงระดับเดียวกับหน้าอกของผู้ใช้

ขนาดสระว่ายน้ำควรมีสัดส่วนเหมาะสมกับปริมาณผู้ใช้งานหรือสมาชิกในบ้านด้วย

สำหรับท่านที่อยากได้สระว่ายน้ำ แต่มีปัญหาเรื่องมีพื้นที่ในบ้านน้อย อาจเลือกทำสระขนาดเล็กแล้วติดเครื่องเจ็ตสำหรับว่ายทวนน้ำอยู่กับที่แทนก็ได้
เราอาจติดตั้งระบบผ้าใบซึ่งสามารเลื่อนปิดผิวสระว่ายน้ำ (อาจเลื่อนด้วยตัวเองหรือใช้เครื่องกลก็ได้) เพื่อป้องกันเศษฝุ่นและใบไม้หล่นปลิวลงไปในสระ อีกทั้งยังช่วยป้องกันอันตรายให้สมาชิกในบ้านได้ในระดับหนึ่งด้วย

โครงสร้างสระว่ายน้ำ

เราสามารถแบ่งตามวิธีก่อสร้างได้เป็น ประเภท คือ
สระว่ายน้ำคอนกรีต ใช้โครงสร้างพื้นและผนังสระเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด ข้อดีของโครงสร้างชนิดนี้ คือ มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถออกแบบรูปทรงได้หลายหลาย
สระว่ายน้ำสำเร็จรูป เป็นสระว่ายน้ำที่ผลิตจากวัสดุประเภทพอลิเมอร์สำเร็จมาจากโรงงาน แล้วนำมาติดตั้งบนโครงสร้างรองรับสระซึ่งเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กในพื้นที่ที่เราเตรียมไว้

สระว่ายน้ำสำเร็จรูปอีกชนิดหนึ่งคือ สระที่ทำจากโครงสร้างเหล็กหรือพลาสติกหล่อคุณภาพดี แล้วปูผ้าไวนิลที่ผลิตขึ้นมาสำหรับสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ โดยใช้แรงดันน้ำเป็นตัวบังคับให้ผ้าไวนิลติดแนบกับโครงสร้างพื้นและผนังที่ เตรียมไว้ สำหรับสระว่ายน้ำสำเร็จรูปนั้นอาจมีข้อจำกัดเรื่องรูปทรงที่ไม่หลากหลายนัก เพราะผลิตตามแบบมาตรฐานของโรงงาน แต่จะมีราคาถูกและสร้างได้รวดเร็วกว่าสระว่ายน้ำโครงสร้างคอนกรีต อีกทั้งสระสำเร็จรูปที่ผลิตจากไวนิลจะต้องมีการเปลี่ยนผ้าไวนิลทุกๆ 10 ปี

ระบบสระว่ายน้ำ

ปัจจุบันระบบสระว่ายน้ำที่นิยมใช้กันมีอยู่ ประเภทใหญ่ๆ คือ

ระบบ Skimmer และ ระบบ Over Flow (ระบบน้ำล้น)

ทั้ง ระบบนี้มีการทำงานต่างกันตรงที่ระบบ Over Flow (ระบบน้ำล้น) จะนำน้ำไปบำบัด โดยการให้น้ำในสระล้นออกมายังรางน้ำล้นข้างสระ แล้วนำน้ำที่ล้นออกมาไปพักไว้ที่ถังพักน้ำ (Surge Tank) ก่อนจะปั๊มน้ำไปผ่านเครื่องกรองน้ำในห้องเครื่อง ทำให้ผิวสระว่ายน้ำที่ใช้ระบบนี้ดูตึงสวย เพราะอยู่ระดับเดียวกับพื้นรอบสระ แต่ก็จะสามารถมองเห็นรางน้ำล้นที่ดูคล้ายกับท่อระบายน้ำรอบสระด้วย

ในขณะที่ระบบ Skimmer นั้นจะนำน้ำไปบำบัด โดยผ่านช่องด้านข้างของผนังสระ ทำให้ผิวน้ำอยู่ในระดับต่ำกว่าพื้นรอบสระประมาณ 4-10 เซนติเมตร ระบบนี้ไม่ต้องมีถังพักน้ำ (Surge Tank) ทำให้เราประหยัดน้ำ และราคาค่าก่อสร้างของระบบ Skimmer ก็ถูกกว่าระบบ Over Flow นอกจากนี้ในปัจจุบันระบบ Skimmer ยังได้รับการพัฒนาให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น โดยมีรูปแบบเป็นเครื่องกรองสำเร็จรูป ไม่ต้องเดินท่อ เพียงแค่มีสระและติดเครื่องไว้ที่ขอบสระ ก็ทำงานได้เลย ซึ่งระบบนี้จะเหมาะกับสระที่มีขนาดเล็กหรือประมาณไม่เกิน 12 x 6 เมตร ราคาเครื่องอยู่ที่ประมาณ แสนกว่าบาท ซึ่งหากสระมีขนาดเล็กมากก็อาจเพิ่มออปชั่นระบบว่ายทวนกระแสเข้าไปด้วยก็ได้ โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับระบบนี้เพิ่มขึ้นประมาณหนึ่งแสนบาท

Trips

ห้องเครื่องสำหรับเก็บปั๊มและเครื่องกรองน้ำควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 2 x 3 เมตร สูง 2.50 เมตร และห่างจากสระว่ายน้ำไม่เกิน 15 เมตร

ระบบบำบัดน้ำ

ปัจจุบันระบบบำบัดน้ำในสระที่นิยมใช้มีอยู่ ระบบ คือ

ระบบคลอรีน 

เป็นระบบฆ่าเชื้อโรคที่มีราคาถูก และนิยมใช้กันมากที่สุด อยู่ในรูปของเหลว เม็ด และผงคลอรีน วิธีใช้คือค่อยๆละลายลงในสระว่ายน้ำ แต่จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ เมื่อค่า pH ในน้ำอยู่ระหว่าง 7.2 - 7.8 หากค่า pH สูงหรือน้ำในสระมีค่าความเป็นด่างมากก็จะต้องเติมกรดลงไปก่อน และถ้าน้ำในสระมีค่า pH ต่ำหรือมีค่าความเป็นกรดสูง ก็จะต้องเติมสารที่เป็นด่างจำพวก Buffer หรือ Soda ash เพื่อปรับค่า pH ในน้ำก่อน ซึ่งสารคลอรีนนั้นอาจมีผลทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหนังได้ ดังนั้นการละลายคลอรีนจึงควรทำในช่วงเย็นหลังจากที่ใช้สระเสร็จแล้ว และจะต้องเปิดเครื่องกรองทิ้งไว้อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงด้วย สำหรับสระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 เมตร ค่าดูแลรักษาด้วยคลอรีนประมาณ 3,000 - 4,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานสระว่ายน้ำ และสภาพอากาศ)

ระบบน้ำเกลือ 

เป็นระบบที่ฆ่าเชื้อโรคด้วยเกลือ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสุภาพ ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหนังอีกด้วย แต่มีราคาค่าติดตั้งค่อนข้างสูง และมีความเป็นด่างทำให้น้ำในสระมีรสกร่อยเล็กน้อย สระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 เมตร ราคาค่าติดตั้งระบบบำบัดน้ำเกลือประมาณ 40,000 - 50,000 บาท และเสียค่าดูแลรักษาหลังจากนั้นประมาณ 400 - 600 บาทต่อเดือน

ระบบโอโซน 

เป็นระบบที่ฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ด้วยการผลิตก๊าซโอโซนจากเครื่องอัดอากาศมาบำบัดน้ำในสระโดยตรง เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะไม่มีสารตกค้างในน้ำ แต่ระบบนี้จะมีระยะเวลาในการฆ่าเชื้อโรคสั้นกว่าระบบอื่น และมีราคาค่าติดตั้งสูง สระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 เมตร ราคาค่าติดตั้งระบบบำบัดแบบโอโซนประมาณ 150,000 - 200,000 บาท


รูปทรงของสระว่ายน้ำ

รูปทรงของสระว่ายน้ำแบ่งออกเป็น ลักษณะใหญ่ๆ คือ รูปทรงเรขาคณิต และรูปทรงอิสระ การเลือกรูปทรงสระว่ายน้ำนั้นไม่มีข้อกำหนดหรือกฎหมายบังคับ ขึ้นอยู่ความชอบส่วนบุคคล คอนเซ็ปต์ของผู้ออกแบบ และ ความต้องการของเจ้าของบ้านเป็นสำคัญ รูปทรงของสระว่ายน้ำที่ดีควรจะดูกลมกลืนและช่วยเสริมสไตล์บ้านให้ดูโดดเด่นมากขึ้น เช่น สระว่ายน้ำรูปทรงเรียบๆที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สงบ เท่ ก็จะเหมาะกับบ้านสไตล์มินิมัลหรือบ้านสไตล์โมเดิร์น ส่วนสระรูปทรงอิสระก็จะเหมาะกับบ้านที่ต้องการความรู้สึกผ่อนคลายหรือไม่เป็นทางการมากนัก อย่างเช่น บ้านสไตล์ทรอปิคัล บ้านสไตล์เรโทรยุค 1950-1960 แต่อย่างไรก็ดีเราไม่ควรออกแบบให้รูปทรงสระมีซอกมุมมากหรือพิสดารจนเกินไป เพราะอาจทำให้มีปัญหาเรื่องการปูกระเบื้องพื้นและผนังของสระว่ายน้ำ และการทำความสะอาดได้ครับ

การเลือกตำแหน่งของสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำนั้นนอกจากจะใช้เพื่อการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้บ้าน ดังนั้นตำแหน่งของสระว่ายน้ำจึงควรอยู่ในที่ที่สามารถมองเห็นได้จากห้องที่เราใช้งานเป็นประจำ เช่น ห้องพักผ่อน ห้องนั่งเล่น หรือห้องอ่านหนังสือ และไม่ควรหันด้านสั้นของสระไปทางทิศตะวันออกและตะวันตก เพราะแสงจากดวงอาทิตย์อาจส่องรบกวนขณะที่เรากำลังว่ายน้ำได้ อีกทั้งสระว่ายน้ำที่อยู่ใกล้กับบ้านมากๆ ควรออกแบบให้อยู่ในด้านทิศเหนือหรือตะวันออกของตัวบ้าน เพื่อให้ร่มเงาของตัวอาคารช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดสะท้อนผิวน้ำเข้าไปรบกวนภายในบ้านได้

การปูผิวสระว่ายน้ำ

กระเบื้องที่นิยมใช้ปิดผิวสระว่ายน้ำมากที่สุดในปัจจุบันก็คือ กระเบื้องโมเสกสีต่างๆ เพราะเป็นกระเบื้องที่มีขนาดเล็ก ละเอียด และสามารถเลือกไล่โทนสีของกระเบื้องได้หลากหลาย แต่กระเบื้องชนิดนี้ก็มีข้อเสียตรงที่มีรอยยาแนวมาก ซึ่งรอยต่อเหล่านี้อาจเป็นจุดสะสมคราบสกปรกได้ง่ายด้วยเช่นกัน

นอกจากกระเบื้องชนิดต่างๆแล้ว การทำผิวสระว่ายน้ำเป็นผิวคอนกรีตขัดมันผสมสีก็ดูจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมทำกันมาก โดยเฉพาะสระว่ายน้ำในโรงแรม และรีสอร์ตที่สร้างใหม่หลายๆแห่ง เพราะพื้นลักษณะนี้จะทำสระว่ายน้ำดูมีความต่อเนื่องเป็นผืนเดียวกันทั้งสระ อีกทั้งเราสามารถเลือกสีสันได้ตามความต้องการ ข้อเสียของพื้นคอนกรีตขัดมันผสมสีก็คือ น้ำมีโอกาสการรั่วซึมได้มากกว่าพื้นสระที่ปูกระเบื้อง

Trips

สีกระเบื้องที่ช่วยให้สระว่ายน้ำดูเป็นธรรมชาติได้แก่ สีฟ้า สีเทอร์คอยส์ หรือสีเขียวแบบสีน้ำทะเล ส่วนกระเบื้องสีเข้มอย่าง สีดำ สีน้ำเงินเข้ม จะทำให้เรารู้สึกว่าสระว่ายน้ำดูลึกและมีมิติมากกว่า อีกทั้งยังเป็นสีที่สามารถทำให้ผิวน้ำในสระสะท้อนเงาของตัวบ้านได้ชัดเจน ด้วย

การสร้างร่มเงาให้สระว่ายน้ำ

การสร้างร่มเงาให้สระว่ายน้ำ เพื่อให้เราสามารถว่ายน้ำเล่นได้อย่างเย็นใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแสงยูวีจากแสงแดดเป็นอีกข้อหนึ่งที่เราควรจะคำนึงถึงในการออกแบบสระว่ายน้ำด้วย สำหรับการสร้างร่มเงาให้สระว่ายน้ำนั้นเราสามารถทำได้หลายวิธีครับ เช่น การออกแบบให้ตัวบ้านช่วยบังแดดให้สระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดีและประหยัดมากที่สุด การปลูกต้นไม้สร้างร่มเงา ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยบังแดดให้สระแล้ว ยังช่วยเพิ่มบรรยากาศความเป็นธรรมชาติให้กับสระว่ายน้ำด้วย แต่ต้นไม้ที่เลือกมาปลูกนั้นไม่ควรใช้ต้นไม้ชนิดผลัดใบหรือออกผล เพราะอาจทำให้พื้นรอบๆและน้ำในสระสกปรกได้ง่าย อีกทั้งควรจะเป็นต้นไม้ที่มีระบบรากไม่ชอนไชและแผ่วงกว้างด้วย เพื่อไม่ให้รากไปทำลายโครงสร้างของสระว่ายน้ำเสียหายทำหลังคาให้สระว่ายน้ำ อาจเป็นโครงหลังคาที่สามารถกันแดดกันฝนแบบถาวรเลย หรืออาจทำแค่สลิงผ้าใบบังแดดที่สามารถเลื่อนเก็บได้ ทั้งนี้โครงสร้างหลังคาควรจะส่งเสริมและดูกลมกลืนกับสไตล์ของบ้านด้วย

เพิ่มบรรยากาศให้สระว่ายน้ำ

การเพิ่มบรรยากาศให้สระว่ายน้ำของเราดูน่าใช้มากขึ้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี เช่น การนำงานประติมากรรม กระถางดอกไม้ และศาลามาประดับไว้รอบๆสระ โดยอาจจะออกแบบให้ของตกแต่งเหล่านี้เป็นส่วนเดียวกับโครงสร้างสระว่ายน้ำไปเลยก็ได้ เช่น ออกแบบศาลาให้ยื่นเข้ามาในสระ หรือทำชั้นวางประติมากรรมไว้ที่ขอบสระ สำหรับสระที่มีขนาดใหญ่มากๆก็อาจทำจากุซซี่ไว้นวดตัวที่มุมหนึ่งของสระว่ายน้ำก็ได้

การดูแลรักษาสระว่ายน้ำ

ก่อนสร้างสระว่ายน้ำเราควรชั่งใจตัวเองให้ดีก่อน เพราะสระว่ายน้ำจะต้องมีเรื่องของการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องหมั่นเก็บเศษใบไม้ที่อยู่ในสระและรางน้ำล้นขอบสระ การดูดตะกอนใต้สระว่ายน้ำทุกๆวัน รวมถึงการตรวจเช็คค่า pH ในน้ำ และการทำงานของเครื่องกรองให้อยู่ในสภาพดีเสมอๆ เพื่อให้น้ำในสระว่ายน้ำของเราดูใสสะอาดน่าใช้ แต่หากใครที่ต้องการจะลดภาระยุ่งยากในการดูแลรักษาสระ ก่อนตัดสินใจสร้างสระว่ายน้ำก็ควรเลือกบริษัทที่มีบริการหลังการขายที่ดีด้วยครับ


ดูข้อมูลและแบบสระว่ายน้ำเพิ่มเติม https://www.facebook.com/sawaynam

6 ขั้นตอนสำรวจบ้านก่อนมีสระว่ายน้ำ 

ถ้าการไปว่ายน้ำแต่ละครั้งกลายเป็นเรื่องลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางฝ่ารถติดหรือบางสถานที่ก็ช่างขาดความเป็นส่วนตัวเหลือเกิน หลายคนจึงคิดจะมีสระว่ายน้ำไว้ที่บ้านของตัวเอง แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มทำสระว่ายน้ำนั้นมี 6 ข้อที่ควรรู้ นั่นคือ

1.พื้นที่บ้านเหมาะจะมีสระว่ายน้ำหรือไม่
ก่อนอื่นต้องรู้ขนาดที่เล็กที่สุดของสระว่ายน้ำและวัตถุประสงค์ในการใช้งานเสียก่อนสามารถสรุปขนาดพื้นที่ที่น้อยสุดของสระได้ดังนี้
เมื่อรู้ขนาดของสระว่ายน้ำที่ต้องการแล้ว ให้เผื่อพื้นที่ทางเดินงานระบบรอบๆ สระอย่างน้อย 1 เมตร เพียงเท่านี้ก็พอจะทราบแล้วนะครับว่า รอบๆ บ้านคุณนั้นสามารถสร้างสระว่ายน้ำได้หรือไม่


2.โครงสร้างบ้านเหมาะจะทำสระว่ายน้ำหรือไม่
          บ้านที่มีสระว่ายน้ำนั้นต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มากนะครับ โดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่แคบๆ ถ้ากำลังจะขุดสระว่ายน้ำควรเว้นพื้นที่ออกจากตัวบ้านประมาณ 0.50-1เมตร เพื่อให้สามารถวางเสาเข็มโครงสร้างของสระได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าเข็มใหม่จะไปกระทบกับฐานรากเดิมของตัวบ้านให้เกิดปัญหา

3.สระว่ายน้ำควรอยู่ตำแหน่งไหนของบ้าน
          หากต้องการให้สระว่ายน้ำช่วยเสริมให้บ้านดูโดดเด่นขึ้น ควรเลือกให้อยู่ตำแหน่งบ้านตำแหน่งนี้เหมาะสำหรับต่อเติมสระว่ายน้ำหลังจากก่อสร้างบ้านเสร็จแล้วที่สุด เพราะใช้เสาเข็มชนิดตอกที่ราคาไม่แพงได้ ทั้งยังประหยัดค่าแรงก่อสร้างอีกด้วย แต่ถ้ากังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว อาจเลือกพื้นที่มุมด้านข้างหรือหลังบ้านจะดีกว่า หรือใช้การยกระดับของสระให้สูงจากพื้นปกติประมาณ 1 เมตร แต่ถ้าพื้นที่แคบมากๆ อาจจะเสียค่าแรงเพิ่ม และต้องใช้เสาเข็มเจาะที่มีราคาแพงเพื่อไม่ทำให้โครงสร้างบ้านเดิมเสียหาย


4.ทิศทางนั้นสำคัญไฉน
          ตำแหน่งสระว่ายน้ำควรอยู่บริเวณทิศเหนือ เพราะร่มเงาของบ้านจะช่วยให้เล่นน้ำได้ทั้งวันโดยไม่ร้อนแดดเกินไป แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ก็ไม่ต้องกังวลมากนักอาจเลือกปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา หรือทำที่บังแดดบางส่วนด้วยระแนงไม้หรือแผ่นพอลิคาร์บอเนตก็ได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถเล่นน้ำได้ทั้งวันแล้ว


5.ควรใช้โครงสร้างสระแบบไหนดี
5.1สระว่ายน้ำโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก
          ข้อดี  แข็งแรงและมีอายุการใช้งานนาน สามารถออกแบบได้หลากหลายสไตล์ทั้งเรื่องรูปทรง วัสดุกรุผิว
          ข้อเสีย  ราคาแพงและใช้เวลาในการก่อสร้างนาน เพราะมีระบบการก่อสร้างที่ซับซ้อนกว่าแบบอื่น
          การใช้งาน  เหมาะกับบ้านทุกประเภท เพราะสามารถออกแบบสระให้กลมกลืนกับสไตล์บ้านได้ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดเวลาในการก่อสร้างและลดรอยต่อด้วยการใช้แบบหล่อผนังสำเร็จรูปที่ทำด้วยพอลิพรอพิลีนแล้วปูผิวสระด้วยแผ่นพีวีซีไลเนอร์แทนการปูกระเบื้อง ใช้เวลาในการสร้างประมาณ 10-20 วัน
          ราคา  ขึ้นอยู่กับ 3 อย่าง คือ วัสดุกรุผิว โครงสร้าง และชนิดงานระบบแต่คิดราคาแบบง่ายๆ อยู่ที่ลูกบาศก์เมตรละ 6,000 – 8,000 บาท

5.2สระว่ายน้ำสำเร็จรูป – มีชิ้นส่วนที่ผลิตมาจากโรงงาน ทั้งแบบที่ยกมาติดตั้งเป็นชิ้นเดียวหรือแบบที่นำมาประกอบเป็นส่วนๆหน้างาน
          ข้อดี ประหยัด ติดตั้งได้รวดเร็ว ใช้พื้นที่ก่อสร้างไม่มาก
          ข้อจำกัด มีรูปแบบและขนาดที่จำกัด วัสดุกรุผิวต้องใช้แผ่นไวนิลปูไม่สามารถใช้กระเบื้องได้
          การใช้งาน เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ก่อสร้างจำกัด มีลักษณะเป็นสระขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง
          ราคา ขนาด 3x6 เมตร ประมาณ 350,000 บาท ขนาด 6x12 เมตร ประมาณ 700,000 บาท


6.จะเลือกรูปรงของสระว่ายน้ำยังไงดี
 6.1สระว่ายน้ำรูปทรงเรขาคณิต
          ได้แก่ สี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม แปดเหลี่ยม วงกลม แต่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะเป็นที่นิยม เพราะประหยัดพื้นที่กว่าแบบอื่น อีกทั้งยังเข้ากับรูปทรงของบ้านทั่วไปที่มีผังเป็นสี่เหลี่ยม การก่อสร้างก็ทำได้ง่าย ด้วยแบบที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ได้ราคาที่ประหยัด

6.2สระว่ายน้ำรูปทรงอิสระ (Free Form)
          เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่กว้าง หรือบ้านที่ปลูกต้นไม้เยอะๆ ด้วยรูปร่างโค้งไปมา อาจทำให้กินพื้นที่แต่ก็ทำได้ลักษณะของแหล่งน้ำธรรมชาติ อาจสร้างบรรยากาศรอบสระด้วยต้นไม้ต่างๆ ทำให้ดูกลมกลืน
6.3สระว่ายน้ำที่ผสมผสานทั้งสองรูปแบบ
          มีความใกล้เคียงกับสระรูปทรงอิสระ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของบ้าน เป็นสระที่ต้องออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ได้ลักษณะเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ราคาแพงกว่าแบบอื่น และขึ้นอยู่กับความยากของแบบ

นิตยสาร ROOM APRIL 2010 /คอลัมน์ At Home

https://www.facebook.com/notes/382394315227852/





No comments:

Post a Comment